รู้จักอุปกรณ์ปูหญ้าเทียม เครื่องมือเล็กๆ ที่ทำให้งานเป๊ะได้จริง!


ถ้าพูดถึง "หญ้าเทียม" หลายคนคงนึกถึงแค่แผ่นหญ้าสีเขียวสดใสที่ปูแล้วดูดี สวย เนียน แต่รู้ไหมครับ? การปูหญ้าเทียมให้สวยและเนียนจริง ๆ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด! เพราะถ้าไม่มี "อุปกรณ์ที่ใช่" งานปูก็พังได้ง่าย ๆ เหมือนกัน

ผมเชื่อว่าหลายคนอาจเคยเจอปัญหานี้… ปูหญ้าแล้วทำไมมันเป็นคลื่น? ทำไมขอบมันยก? หรือแป๊บเดียวทำไมพื้นมันทรุด? บอกเลยว่าต้นเหตุมันอยู่ที่ "ขั้นตอน" และ "อุปกรณ์" นี่แหละ! เพราะแค่ขาดอุปกรณ์บางชิ้น งานที่ตั้งใจทำให้เนียน ก็อาจจบลงแบบไม่สวยอย่างที่หวัง

เพราะการปูหญ้าเทียม มันไม่ใช่แค่เอาหญ้ามาวางแล้วจบ! แต่มันต้องใช้การเตรียมพื้นที่ ปรับระดับ ติดกาว และยึดขอบอย่างพิถีพิถัน ทุกขั้นตอนต้องใช้ "เครื่องมือที่เหมาะสม" เพื่อให้งานออกมาดูดี ไม่ใช่แค่สวยวันแรก แต่ต้องสวยยาว ๆ ไปอีกนาน

และนี่แหละครับ...คือเหตุผลที่ผมอยากจะมาแชร์ "อุปกรณ์สำคัญในการปูหญ้าเทียม" ในแบบฉบับของผมเอง! บอกกันแบบละเอียด เน้น ๆ ว่าของชิ้นไหนต้องมี ของชิ้นไหนจำเป็น และของชิ้นไหนช่วยให้งานเนียนเหมือนช่างมืออาชีพปูเอง!

เพราะบางคนอาจสงสัยว่า…

  1. "ต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง?"
  2. "ใช้อะไรตัดหญ้าให้เรียบ?"
  3. "ทำไมต้องมีตะปูหรือค้อน?"
  4. "แล้วผ้าจีโอเท็กซ์คืออะไร?

วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับอุปกรณ์แต่ละชิ้น พร้อมบอกวิธีใช้งานแบบเข้าใจง่าย อ่านแล้วเตรียมพร้อมได้เลย ใครคิดจะปูหญ้าเทียมเอง หรืออยากรู้ไว้สำหรับจ้างช่าง ก็ได้ทั้งนั้น!

บอกเลย...รู้ไว้ไม่เสียหาย เพราะแค่เข้าใจอุปกรณ์เบื้องต้น งานปูหญ้าจะง่ายขึ้นเยอะ และถ้าพร้อมแล้ว...ไปลุยกันเลยดีกว่า! เตรียมตัวให้พร้อม เพราะบทความนี้จะพาไปไล่เรียง "ของมันต้องมี" สำหรับงานปูหญ้าเทียมอย่างละเอียดทุกขั้นตอน!

1. ตลับเมตร วัดให้เป๊ะ อย่าให้พลาดสักเซน!

ถ้าจะพูดถึงอุปกรณ์ที่สำคัญสุด ๆ ในการปูหญ้าเทียม ผมขอยกให้ "ตลับเมตร" เป็นพระเอกอันดับหนึ่ง! อุปกรณ์ที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่ถ้าขาดไป งานก็พังได้ง่าย ๆ เลยนะ เพราะถ้าวัดพื้นที่ไม่เป๊ะ ปัญหาก็จะตามมาทันที ไม่ว่าจะหญ้าขาด หญ้าเกิน หรือปูแล้วเหลือเศษย้วย ๆ ให้ต้องมาตัดแก้ใหม่ให้วุ่น บอกเลยว่า...ถ้าไม่อยากเสียน้ำตา เพราะต้องรื้อปูใหม่ วัดให้เป๊ะตั้งแต่แรกดีกว่า! ทริคเล็ก ๆ จากผม วัดยังไงให้เป๊ะปังไม่มีพลาด!

วัดความกว้าง ความยาวให้ครบทุกมุม เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการวัดขนาดพื้นที่ก่อนเลย วัดให้ครบทั้งความกว้างและความยาว และถ้าเป็นพื้นที่ใหญ่ แนะนำให้วัดหลาย ๆ จุด เผื่อบางทีพื้นจะมีความต่างเล็กน้อยตรงบางจุด อย่าคิดว่า "วัดคร่าว ๆ ก็พอ" เพราะแค่พลาดไปเซนเดียว ก็มีผลกับตอนปูแน่นอน!

เจอเสา เจอมุมโค้ง อย่าชะล่าใจ! ถ้าพื้นที่ที่คุณจะปูมีเสา มุมโค้ง หรือมุมที่แปลก ๆ อย่ามองข้าม! วัดซ้ำอีกรอบให้ชัวร์ และจดบันทึกไว้ให้ละเอียด เพราะมุมเล็ก ๆ แบบนี้แหละ ที่ทำให้หลายคนต้องมานั่งปวดหัวทีหลัง

เผื่อพื้นที่ไว้สำหรับการตัดแต่ง อย่าตัดหญ้าแบบเป๊ะปังเป๊ะเป๊ะ เพราะเวลาปูจริง ๆ บางทีพื้นที่อาจจะขยายหรือหดตัวเล็กน้อย ดังนั้นเผื่อไว้สัก 5-10 เซนติเมตรก็ดี จะได้มีพื้นที่สำหรับตัดแต่งขอบให้สวยงาม ไม่ต้องกังวลว่าหญ้าจะขาด หรือยาวจนย้วยเกินไป "วัดให้เป๊ะตั้งแต่แรก ดีกว่าต้องมาแก้ทีหลังให้เหนื่อย!"

อย่าลืมว่าตลับเมตรไม่ใช่แค่ของประดับ แต่เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้ทุกการปูหญ้าเทียมง่ายขึ้น สวยขึ้น และจบงานได้เร็วขึ้นด้วย เพราะถ้าพลาดแค่เซนเดียว...อาจต้องมานั่งเสียน้ำตากับหญ้าที่ขาดหรือเหลือจนต้องปูใหม่อีกรอบ! เพราะงั้น...ตลับเมตรต้องพร้อม มือพร้อม ใจพร้อม! จะวัดกี่รอบก็วัดไป อย่าขี้เกียจ เพราะความเป๊ะวันนี้...จะช่วยให้งานของคุณสวยเนียนแบบมืออาชีพ!

2. คัตเตอร์ ตัดให้คม เนียน เป๊ะ!

ถ้าจะปูหญ้าเทียมให้สวยแบบไม่มีที่ติ "คัตเตอร์" คืออาวุธลับที่ขาดไม่ได้! เพราะการตัดขอบหญ้าให้เนียนกริบ ไม่หลุดลุ่ย ไม่ขาดเป็นหย่อม ๆ ต้องพึ่งคัตเตอร์คม ๆ เท่านั้น ถึงจะได้รอยตัดที่สวย เรียบเนียน และต่อกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ พูดง่าย ๆ คือ...คัตเตอร์คม = งานเนียน! แต่ถ้าคัตเตอร์ทื่อเมื่อไหร่ งานก็พังทันที! ทริคตัดหญ้าให้เนียนแบบไม่มีพลาด! ตัดตามร่องขอบหญ้าให้เป๊ะ เวลาจะตัดหญ้าให้แนบสนิท ต้องสังเกตดี ๆ ว่าหญ้าเทียมแต่ละแผ่นจะมี "ขอบร่อง" อยู่ แนะนำให้ตัดออกประมาณ 1 ช่อง (หรือตามร่องที่เห็น) เพราะถ้าตัดพอดีขอบ หญ้าจะประกบแนบสนิทกันเป๊ะ ไม่เห็นรอยต่อ ไม่สะดุดสายตา มองเผิน ๆ นึกว่าหญ้าจริงเลยล่ะ!

ใบมีดต้องคมเสมอ! นี่คือกฎเหล็กที่ห้ามพลาด! เพราะคัตเตอร์ทื่อเมื่อไหร่...หญ้าจะขาดแบบไม่เรียบ บางทีดึงเส้นหญ้าหลุดลุ่ยออกมาอีก เจอแบบนี้มีน้ำตาตกแน่นอน ทางแก้คือ เปลี่ยนใบมีดทันที อย่ารอให้มันขาดครึ่งหรือหญ้าเสียก่อน เพราะใบมีดคม ๆ นี่แหละ จะช่วยให้ตัดได้ง่าย เส้นเนียน ไม่มีขรุขระ!

ใช้มือลูบขอบเช็คความเนียน หลังตัดแล้ว อย่ารีบวางประกบทันที! ลองใช้มือลูบเช็คขอบดูก่อน ถ้ายังมีเส้นหญ้าหลุดลุ่ยหรือขอบไม่เรียบ ให้ตัดซ้ำอีกนิด เอาให้เนียนที่สุด เพราะถ้าประกบไปแล้วจะกลับมาแก้ทีหลัง...เหนื่อยกว่าเดิมแน่นอน! "คัตเตอร์คม งานเนียน คัตเตอร์ทื่อ งานพัง!"

บางคนอาจมองว่าตัดหญ้าแค่ตัด ๆ ไปก็จบแล้ว แต่ไม่จริงเลยนะครับ เพราะรอยตัดเนี่ย เป็นตัวชี้วัดความสวยของงานปูหญ้าได้เลย! ถ้าขอบหญ้าไม่เนียน เวลาประกบแล้วรอยต่อจะชัดมาก ถึงจะปูดีแค่ไหน ก็ไม่สวยเหมือนงานมืออาชีพแน่นอน เพราะฉะนั้น...อย่าประมาทคัตเตอร์! ก่อนเริ่มตัด เช็คใบมีดให้คม ถ้ารู้สึกว่าตัดแล้วฝืด เปลี่ยนเลย! เพราะใบมีดใหม่คือคำตอบของงานสวย งานเป๊ะ ที่ไม่ต้องมาแก้งานให้เหนื่อยทีหลัง "คมกริบตั้งแต่แรก จบงานสวยตั้งแต่ครั้งเดียว!" แค่ตัดให้ดี ตัดให้เนียน งานปูหญ้าของคุณก็จะดูมืออาชีพ แบบที่ใครเห็นก็ต้องร้องว้าว!

3. ผ้าสมิงเทป (ผ้าเทปต่อหญ้าเทียม)  ตัวช่วยให้รอยต่อเนียนกริบ แถมซ่อมง่าย!

เวลาปูหญ้าเทียม พื้นที่มันใหญ่ก็มักจะต้องต่อแผ่นกันอยู่แล้ว และถ้าไม่อยากให้รอยต่อโผล่เป็นเส้นเห็นชัด ๆ แบบโป๊ะ ๆ "ผ้าสมิงเทป" หรือ "ผ้าเทปต่อหญ้าเทียม" นี่แหละ! ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้รอยต่อแนบเนียนเหมือนหญ้าผืนเดียวกัน ไม่มีหลุด ไม่มีแหว่งให้เสียอารมณ์! ทริคใช้ผ้าสมิงเทปให้เป๊ะ! วางผ้าสมิงเทปใต้รอยต่อ จัดให้ผ้าสมิงเทปอยู่ตรงกลางระหว่างแผ่นหญ้าทั้งสองฝั่ง ให้พอดีกับรอยต่อ ไม่ต้องปูยาวเต็มพื้นที่ จะได้ไม่เปลืองผ้าหรือเปลืองกาวเกินจำเป็น

ปาดกาวเฉพาะตรงกลางรอยต่อ ทาให้พอเหมาะ ไม่ต้องเยอะจนล้น เพราะกาวที่มากเกินไปไม่ได้ช่วยอะไร แถมเปลืองอีกต่างหาก! พอปาดเสร็จก็จัดแผ่นหญ้าให้แนบกับกาวและผ้าสมิงเทปเลย กดให้แน่น เช็คให้เรียบ ลองเช็คจากหลายมุมว่าแนบสนิทหรือยัง ถ้ายัง…รีบปรับให้เรียบร้อยก่อนที่กาวจะแห้งติดถาวร!

ข้อดีอีกอย่างที่ไม่ควรมองข้าม!

ผ้าสมิงเทปไม่ได้ยึดติดกับพื้นโดยตรง เพราะฉะนั้น...ถ้าวันไหนต้องแก้ไขหรือซ่อมแซม ก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก! แค่ค่อย ๆ แกะหญ้าออกจากรอยต่อ ไม่ต้องงัด ไม่ต้องเลาะให้พื้นเสียหาย เพราะหญ้าจะหลุดเฉพาะตรงที่ยึดกับผ้าสมิงเทปเท่านั้น ที่สำคัญ! ผ้าสมิงเทปช่วยรองพื้นไว้ ไม่ให้กาวเลอะหญ้าหรือพื้นมากเกินไป เวลาจะซ่อมแซมก็สะดวก ไม่ต้องกังวลว่ากาวจะติดแน่นเกินไปจนดึงไม่ออก! บอกเลยว่า...งานเนียน ซ่อมง่าย ประหยัดกาว! ผ้าสมิงเทปไม่ใช่แค่ช่วยให้รอยต่อเนียนกริบเหมือนมืออาชีพ แต่ยังเผื่ออนาคตเวลาต้องแก้ไขหรือซ่อมแซมก็ทำได้ง่าย ไม่ต้องมาปวดหัวแก้งานซ้ำซาก!

4. กาว ตัวช่วยให้หญ้าแนบพื้น ไม่หลุดง่าย!

ปูหญ้าเทียมให้แน่นปัง กาวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง! เพราะต่อให้ปูหญ้าเรียบแค่ไหน แต่ถ้ากาวไม่แน่น...หญ้าก็พร้อมจะโบกมือบ๊ายบายได้ทุกเมื่อ! ยิ่งเจอแดดจัด ฝนตก หรือเหยียบย่ำหนัก ๆ บอกเลยว่าถ้ากาวไม่ทน งานพังแน่นอน! กาวที่เหมาะที่สุดสำหรับงานนี้ ต้องเป็น "กาวยาง" หรือ "กาวสำหรับงานกลางแจ้ง" ที่ออกแบบมาให้ทนแดด ทนฝน ทนการใช้งานหนัก ๆ ได้ยาว ๆ แบบไม่หลุดไม่ร่อนง่าย ๆ เพราะไม่มีใครอยากมานั่งซ่อมหญ้าเทียมบ่อย ๆ หรอก จริงไหม?

ทริคเล็ก ๆ ปาดกาวยังไงให้เนียน เป๊ะ ไม่พังง่าย! ปาดกาวให้บางและสม่ำเสมอ อย่าปาดกาวแบบหนาเตอะ! เพราะกาวที่หนาเกินไปจะทำให้หญ้าเทียมที่ปูไปดูนูน ๆ ไม่เรียบเสมอกัน และที่สำคัญกาวที่หนาเกินไป...แห้งช้า! เสี่ยงต่อการเลอะเปรอะเปื้อนอีกด้วย ปาดแค่บาง ๆ แต่ให้สม่ำเสมอทั่วทั้งผืนพอแล้ว

เน้นตรงขอบและรอยต่อเป็นพิเศษ จุดที่หญ้าชอบหลุดที่สุดก็คือ "ขอบ" และ "รอยต่อ"! เพราะโดนเหยียบเยอะและสัมผัสแรงเสียดสีตลอด ถ้าตรงนี้ไม่แน่น...เตรียมแก้งานได้เลย! ฉะนั้น เวลาปาดกาวตรงขอบกับรอยต่อ อย่าขี้เหนียวกาว! ปาดให้เน้น ๆ แน่น ๆ จะช่วยล็อคหญ้าให้ติดแน่น ไม่มีหลุดง่าย ๆ แน่นอน ปล่อยกาวเซ็ตตัวพอดี หลังจากปาดกาวเสร็จ อย่ารีบวางหญ้าทันที! รอกาวเซ็ตตัวแห้งนิดนึง (กาวจะเหนียว ๆ ไม่เหลวแล้ว) ค่อยวางหญ้าลงไป เพราะถ้าวางตอนกาวเหลว หญ้าอาจจะไม่ติดแน่น หรือมีปัญหากาวเลอะได้ง่าย ใช้เท้าเหยียบ หรือวัตถุหนักกดทับ เมื่อวางหญ้าเสร็จแล้ว ใช้เท้าเหยียบตามรอยต่อ หรือหาวัตถุหนัก ๆ มากดทับช่วงที่ติดกาวไว้ เพื่อช่วยให้กาวยึดแน่นติดดีขึ้น และลดโอกาสที่หญ้าจะหลุดง่ายในภายหลัง

ข้อควรระวัง

ห้ามใช้กาวเกรดต่ำหรือกาวราคาถูกเกินไป เพราะทนแดด ทนฝนไม่ไหว ไม่นานก็หลุด! ถ้ากาวเลอะหญ้า ให้รีบเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำมันเบนซินหรือแอลกอฮอล์ทันที อย่าปล่อยให้แห้ง เพราะเช็ดออกยาก! "กาวดี...หญ้าก็อยู่กับเรายาว!" บอกเลยว่างานปูหญ้าเทียมไม่ได้จบที่การวางให้สวยเท่านั้น แต่ต้องจบที่ "การติดกาวให้แน่น!" เพราะถ้ากาวแน่น งานก็ดี หญ้าก็อยู่กับเรานาน ๆ ไม่ต้องมานั่งซ่อม ซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ปวดหัว เพราะฉะนั้น...อย่ารีบ! ค่อย ๆ ปาด ค่อย ๆ เช็ค ปาดให้เนียนแน่นทุกจุด แล้วหญ้าเทียมของคุณจะสวยเนียน เป๊ะ ติดทนแน่นไปอีกยาว ๆ แบบไม่ต้องมานั่งแก้งานทีหลังแน่นอน!

5. เครื่องตบ อัดให้แน่น ลดโอกาสพื้นยุบ!

ถ้าถามว่าทำไมต้องให้ความสำคัญกับ "พื้น" ก่อนปูหญ้าเทียม? คำตอบง่ายมาก… เพราะถ้าพื้นไม่แน่น ต่อให้หญ้าเทียมสวยแค่ไหน เดี๋ยวก็พัง! ยิ่งเป็น "พื้นดิน" ด้วยแล้ว บอกเลยว่า...ยุบแน่นอน! เพราะพื้นดินมันใจร้าย ขยันยุบตัวไม่แพ้ใจคนแอบรักเลยล่ะ!

แล้วตัวช่วยที่จะมาเคลียร์ปัญหานี้ได้ก็คือ "เครื่องตบ" นั่นเอง! ไอ้เจ้าตัวนี้แหละที่ทำให้พื้นแน่นปึ้ก ปูแล้วสวยนาน ไม่มีทางยุบง่าย ๆ

ทำไมพื้นดินต้องตบ?

เพราะพื้นดินมันก็เหมือนใจคน! ถ้าไม่แน่นพอ เดี๋ยวก็ยุบ เดี๋ยวก็จม บางทีเผลอ ๆ ก็ถล่มแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วถ้าพื้นยุบ หญ้าก็ยุบตาม! เดินไปเหยียบทีหนึ่งอาจเจอหลุมลึกจนต้องร้องว่า "หลุมอะไรใหญ่ขนาดนี้เนี่ย!"

วิธีตบพื้นดินให้แน่นแบบอยู่หมัด!

  1. ปรับหน้าดินให้เรียบก่อน เริ่มจากการถางหญ้า ตัดวัชพืชให้เกลี้ยง แล้วปรับระดับพื้นให้เรียบเสมอกัน ถ้ามีหลุมมีบ่อก็ต้องอุดให้เรียบ ไม่งั้นตบยังไงก็ไม่แน่น!
  2. ใช้เครื่องตบตบวนให้ทั่ว เครื่องตบนี่แหละคือของดี! แต่ก่อนตบ ต้องพรมน้ำหรือฉีดน้ำให้ชุ่มชื่นก่อนตบ แล้วก็ตบวนให้ทั่วทั้งพื้นที่ ย้ำเลยว่า "อย่าขี้เกียจ!" เพราะถ้าขี้เกียจตบ พื้นมันก็จะขี้เกียจแน่นเหมือนกัน พอตบแล้วลองเดินเหยียบดู ถ้ายังยวบ ๆ ก็วนตบต่ออีกสักรอบสองรอบ
  3. เน้นตรงขอบมุม ขอบมุมของพื้นที่เป็นจุดเสี่ยงที่ยุบง่ายมาก เพราะมันรับน้ำหนักไม่เท่ากัน ต้องตบซ้ำจนกว่าจะรู้สึกแน่น ไม่งั้นหญ้าจะเป็นหลุมยุบ ๆ เดี๋ยวโดนเพื่อนล้อว่าปูสนามหญ้าหรือทำสนามกระโดดไกล! ถ้าหากเครื่องตบไม่สามารถเข้าไปตบได้ ใช้ด้ามจอบหรือหาวัสดุอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักตบให้แน่น 

ถ้าไม่มีเครื่องตบ...ทำไงดี?

โอเค! ไม่ต้องตกใจ ถ้าไม่มีเครื่องตบ ก็ยังมีวิธีแบบบ้าน ๆ ที่ทำให้พื้นแน่นได้!

ใช้ไม้หรือเหล็กแท่งหนัก ๆ ทุบแทน เอาของหนัก ๆ มาทุบวน ๆ ไป แต่บอกก่อนนะ… ออกแรงเยอะหน่อย เพราะตบเองมันเหนื่อยกว่าตบเครื่องเยอะ แต่ถ้าอยากฟิตกล้ามก็ถือว่าเป็นข้อดี (ฮา)

ใช้เท้าเหยียบวนทั้งสนาม วิธีนี้เหมาะกับสายมินิมอล เอาเท้าเหยียบวนไปให้ทั่ว พื้นไหนนุ่ม ๆ ก็เหยียบซ้ำอีกหน่อย เหมือนไปเดินเล่นกลางทุ่ง แต่สุดท้ายรับรองพื้นแน่นแน่! (แต่ถ้าใครหนัก 50 กิโล แนะนำให้พาเพื่อนมาเดินเหยียบด้วย จะได้ช่วยกันแน่น!)

ราดน้ำช่วยให้ดินเซ็ตตัว ถ้าดินยังยวบ ๆ อยู่ ราดน้ำสักนิดแล้วตบทับอีกที พอเซ็ตตัวแล้วจะช่วยให้พื้นแน่นขึ้นเยอะเลย

ข้อควรระวัง!

  • ถ้าตบแล้วยังยวบ ห้ามปูหญ้าเด็ดขาด! เพราะพอเวลาผ่านไป หญ้าจะยุบแล้วต้องแก้งานใหม่ = เสียเวลา เสียเงิน เสียสุขภาพจิต!
  • อย่าลืมเช็คพื้นให้แน่นก่อนทุกครั้ง เพราะถ้าพลาด แก้งานทีหลังเหนื่อยกว่าเดิมแน่นอน
  • พื้นแน่นพอแล้ว? ถึงค่อยเริ่มขั้นตอนปูหญ้า จะได้ไม่ต้องกลับมานั่งเสียดายทีหลังว่า "รู้งี้ตบให้แน่นกว่านี้ดีกว่า!"

สรุป
ตบให้แน่น! เพราะถ้าพื้นยุบ = งานพัง! ไม่มีเครื่องตบ ก็ใช้วิธีบ้าน ๆ ทุบเอง เดินเหยียบ หรือราดน้ำช่วย เน้นตรงขอบและมุมให้ดี เพราะจุดนี้ยุบง่ายสุด!ถ้าพื้นแน่นแต่แรก ชีวิตหลังปูหญ้าจะสบาย ไม่มีปัญหากวนใจ"ถ้าพื้นแน่น...หญ้าก็แน่น ถ้าพื้นหลวม...ชีวิตก็หลวมตาม!"เพราะฉะนั้น…ตบเถอะ ตบให้แน่น! จะได้ปูหญ้าเทียมแล้วสวยเป๊ะ ไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องแก้ เดินเหยียบได้มั่นใจ เหมือนเหยียบพื้นปูนแข็ง ๆ แต่มีหญ้าเขียวสวยปูรองไว้ให้นุ่มสบายตา อย่าขี้เกียจนะ! ลงแรงตบตั้งแต่แรก แล้วหญ้าเทียมของคุณจะอยู่กับคุณไปยาว ๆ เหมือนเพื่อนรักที่ไม่มีวันหนีหาย!

6. ผ้าจีโอเท็กซ์ (Geotextile Fabric) ตัวช่วยป้องกันวัชพืชโผล่!

เคยเจอไหม? ปูหญ้าเทียมไปอย่างสวยงาม แต่พอเวลาผ่านไป วัชพืชดันโผล่หน้าขึ้นมาทักทาย! งานนี้ต่อให้หญ้าจะเขียวสดสวยแค่ไหน ก็โดนวัชพืชแย่งซีนหมดแน่นอน นี่ยังไม่รวมถึงปัญหาที่วัชพืชจะดันให้หญ้าเทียมเป็นคลื่น เป็นหลุม เป็นบ่ออีกด้วยนะ…พังแบบไม่รู้ตัวเลยล่ะ!

และนี่แหละ! "ผ้าจีโอเท็กซ์ (Geotextile Fabric)" ตัวช่วยกันพังชั้นดีที่ควรมีติดไว้ในทุกงานปูหญ้า เพราะมันช่วยป้องกันไม่ให้วัชพืชแทรกตัวขึ้นมา แถมยังช่วยให้พื้นแน่นขึ้นด้วย จะได้เดินเหยียบแล้วไม่ยวบ ไม่ยุบ ไม่ต้องห่วงว่าหญ้าจะพังเร็ว!

ทำไมต้องปูผ้าจีโอเท็กซ์?

กันวัชพืชแบบอยู่หมัด! วัชพืชบางชนิดนี่โหดมากนะ! ต่อให้ปูหญ้าเทียมกดทับยังไง มันก็ยังหาทางโผล่ขึ้นมาได้อยู่ดี ผ้าจีโอเท็กซ์จะช่วยเป็นเกราะป้องกันชั้นดี ปิดโอกาสไม่ให้วัชพืชโผล่ขึ้นมาสร้างความปวดหัวให้เราได้ง่าย ๆ

ช่วยให้พื้นแน่นขึ้น เพราะผ้าจีโอเท็กซ์จะช่วยรองรับพื้นและลดปัญหาดินทรุดได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะถ้าพื้นเดิมยังไม่แน่นพอ ก็สามารถใช้ผ้านี้ช่วยเสริมความมั่นคงได้อีกทาง

ลดปัญหาการทรุดตัวของหญ้า ถ้าพื้นแน่น วัชพืชไม่โผล่ หญ้าก็จะอยู่กับเราไปอีกนาน ไม่ต้องเสียเวลาแก้งานให้เหนื่อยใจทีหลัง

ทริคใช้ผ้าจีโอเท็กซ์ให้คุ้มแบบมือโปร ปูไว้ชั้นล่างสุด ก่อนจะลงหินหรือทราย ต้องเริ่มจากปูผ้าจีโอเท็กซ์ก่อนเลย! ปูให้แนบกับพื้นมากที่สุด จะได้ป้องกันวัชพืชได้แบบชัวร์ ๆ และช่วยรองรับน้ำหนักของหินกับทรายไม่ให้ดันวัชพืชโผล่มาได้ง่าย ตัดผ้าให้พอดีกับพื้นที่ อย่าปล่อยให้ขอบผ้าเกินหรือขาดจนเกินไป เพราะถ้าขาดเกินไป วัชพืชอาจแอบโผล่ตามขอบได้ แต่ถ้าเกินเกินไป เวลาปูหญ้าเทียมอาจทำให้ผ้าย่นหรือพับจนหญ้าปูไม่เรียบ ซ้อนผ้าตรงรอยต่อสักนิด ถ้าพื้นที่ใหญ่และต้องใช้ผ้าหลายผืน อย่าลืมซ้อนผ้าตรงรอยต่อสัก 10-15 ซม. เพื่อกันไม่ให้วัชพืชแทรกขึ้นมาตรงรอยต่อได้ง่าย ๆ (เหมือนซ้อนแผลให้เนียนเลยล่ะ!)

เช็คความแน่นของผ้าก่อนลงหิน เดินวนเช็คความเรียบร้อยก่อนลงหิน ถ้ามีรอยย่นหรือหลุดออกจากตำแหน่ง ให้จัดการเก็บให้เรียบร้อยก่อน ไม่งั้นพอลงหินแล้วผ้าจะเคลื่อนตัว ปูหญ้าทีหลังจะยิ่งยากขึ้นไปอีก

ข้อดีของผ้าจีโอเท็กซ์ที่คุณอาจไม่รู้!

แกะออกง่ายเวลาแก้งาน ถ้าวันไหนต้องแก้งานหรือเซอร์วิสหญ้าแค่บางจุด ไม่ต้องรื้อพื้นให้ยุ่งยาก เพราะผ้าจีโอเท็กซ์ไม่ได้ยึดติดกับพื้น แค่แงะหญ้าออกก็จัดการซ่อมได้ง่าย ๆ แล้ว

ทนทานต่อแดด ฝน และเวลา ผ้าชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อใช้งานกลางแจ้ง ทนแดด ทนฝน ไม่ขาดง่าย เรียกได้ว่าปูครั้งเดียวก็อยู่กันไปยาว ๆ แบบไม่ต้องห่วง

ลดโอกาสเกิดน้ำขัง เพราะมันช่วยให้พื้นดินระบายน้ำได้ดีขึ้น ลดโอกาสที่น้ำจะขังจนทำให้หญ้าเน่าเสียหรือเกิดกลิ่นอับ

สรุปแบบง่าย ๆปูผ้าจีโอเท็กซ์ก่อนลงหินหรือทราย – เพื่อกันวัชพืชแทรกตัวขึ้นมา ตัดผ้าให้พอดีกับพื้นที่ – ไม่ปล่อยให้วัชพืชหาทางโผล่ตามขอบ ซ้อนผ้าตรงรอยต่อ – ป้องกันการแทรกตัวของวัชพืช เช็คความแน่นของผ้าก่อนลงหิน – เพื่อไม่ให้ผ้าเคลื่อนตัวตอนปูหญ้า "ปูผ้าให้ดี ปูหญ้าทีเดียวจบ!" เพราะวัชพืชโผล่ = งานพัง! แต่ถ้าปูผ้าจีโอเท็กซ์ให้ดี งานก็สวยยาวนานไม่ต้องซ่อมบ่อย ๆ แถมยังประหยัดเวลาซ่อมได้อีกต่างหาก! ไม่อยากให้วัชพืชแซงหน้าหญ้า? ต้องปูผ้าจีโอเท็กซ์!

บอกเลยว่าถ้าไม่อยากหัวเสียทีหลังกับวัชพืชที่แอบโผล่มาทำลายความสวยของสนามหญ้าเทียม ปูผ้าจีโอเท็กซ์ไว้ตั้งแต่แรกดีกว่า ลงทุนครั้งเดียว แต่ได้ความสบายใจไปยาว ๆ ไม่ต้องคอยแก้งานบ่อยให้เหนื่อยใจ เพราะฉะนั้น...อย่ามองข้ามขั้นตอนนี้เด็ดขาด! ปูให้ดีตั้งแต่พื้น แล้วชีวิตจะดีไม่มีปัญหามากวนใจทีหลังแน่นอน!7. ค้อนและตะปู – ตัวช่วยยึดขอบหญ้าให้แน่น!

มาถึงพระเอกของงานปูหญ้าเทียมบนพื้นดินอีกหนึ่งตัว! ใช่แล้วครับ... "ค้อนและตะปู" อุปกรณ์สุดคลาสสิกที่ไม่ว่าช่างมือโปรหรือมือใหม่ก็ต้องมีติดไว้ เพราะการยึดขอบหญ้าให้แน่นเป๊ะเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาด! ไม่อย่างนั้น เดินไปเดินมาอยู่ดี ๆ หญ้าจะหลุด จะยกตัวขึ้นมา...จบเลยครับ งานนี้ไม่ต้องโทษใคร โทษตัวเองที่มองข้ามขั้นตอนนี้แน่นอน!

7.เลือกตะปูให้ถูก...แล้วทุกอย่างจะดี!

ตะปูตัว U  เหมาะสุด ๆ สำหรับการยึดขอบหญ้ากับพื้นดิน เพราะรูปทรงของมันจะล็อกหญ้าได้แน่น ช่วยให้ขอบหญ้าไม่ยกตัวง่าย และแนบกับพื้นได้ดี ไม่ว่าจะโดนเหยียบ โดนลาก หญ้าก็ยังแน่นเหมือนเดิม

ตะปูธรรมดา ถ้าพื้นดินแข็ง หรือหาตะปูตัว U ไม่ได้ ตะปูธรรมดาก็เอาอยู่! แค่เลือกขนาดที่เหมาะสม และตอกให้แน่น ก็ช่วยให้หญ้าอยู่ติดกับพื้นได้เหมือนกัน แต่จะต้องคอยเช็คว่าตะปูแน่นพอหรือไม่ เพราะถ้าตะปูหลวม หญ้าก็มีสิทธิ์ยกตัวได้

ทริคง่าย ๆ ในการตอกตะปูให้แน่นเป๊ะ!

1. วัดระยะห่างให้ดี การตอกตะปูควรเว้นระยะห่างประมาณ 10-20 ซม. เพื่อความแน่นหนาและช่วยให้ขอบหญ้าไม่หลุดง่าย โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องรับน้ำหนักเยอะ ๆ เช่น ทางเดิน หรือพื้นที่ที่คนเดินเหยียบบ่อย ๆ

2. เน้นตรงขอบให้แน่น อย่ามัวแต่ตอกแบบขอไปที! ให้เน้นตรงขอบให้แน่นที่สุด เพราะถ้าขอบหญ้าหลุดแม้แต่จุดเดียว หญ้าจะยกตัวตามมาทั้งแผ่นเลยนะครับ แล้วแก้งานทีหลังจะเหนื่อยยิ่งกว่าเดิม

3. ใช้ค้อนตอกให้แน่น (แต่ใจเย็น ๆ) เวลาตอกตะปู ไม่ต้องเอาค้อนฟาดแรงเหมือนจะล้มปราสาทหินนะครับ! แค่ตอกให้แน่นพอประมาณ อย่าตอกแรงเกิน เพราะเส้นหญ้าอาจฉีกขาดหรือยุบตัวได้ เสียเวลาซ่อมอีก!

4. ถ้าพื้นดินแข็งมาก  รดน้ำช่วย! ถ้าพื้นดินแข็งจนตอกตะปูแทบไม่เข้า ลองใช้วิธีรดน้ำบริเวณที่จะตอกก่อนสักนิด เพื่อให้ดินนุ่มขึ้น ตะปูจะเข้าได้ง่ายขึ้น และยึดแน่นกว่าเดิม

ข้อดีของการใช้ค้อนและตะปูยึดขอบหญ้า

  1. หญ้าแน่นไม่ยกตัว ขอบหญ้าจะถูกยึดกับพื้นแน่นหนา ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดง่าย แม้จะโดนเหยียบ โดนลาก หรือเจอลมแรง ๆ
  2. ลดโอกาสหญ้าเสียหาย  ถ้าขอบหญ้าแน่น เวลาเดินเหยียบก็จะไม่ยุบหรือยกตัว ช่วยลดความเสี่ยงที่หญ้าจะเสียหายหรือเสื่อมสภาพเร็ว
  3. แกะซ่อมง่าย ถ้าวันหนึ่งต้องเซอร์วิสหรือแก้ไข ก็แค่ดึงตะปูออก หญ้าก็หลุดง่าย ไม่ต้องกลัวว่าหญ้าจะขาดหรือเสียหายจากการดึง
  4. ดูสวย เนียนตา  ขอบหญ้าที่แน่นหนา ไม่ยกตัว จะทำให้ภาพรวมของสนามหญ้าเทียมดูเนียนสวย สบายตา แถมยังดูมือโปรอีกด้วย!

สรุปง่าย ๆ แบบช่างสายขำ (แต่จริงใจ!) เลือกตะปูให้ถูก พื้นนุ่มใช้ตะปูตัว U, พื้นแข็งใช้ตะปูธรรมดาตอกให้แน่น แต่เบามือหน่อย ไม่ต้องกลัวหญ้าจะหนี! เว้นระยะห่าง 10-2 ซม.  เพื่อความแน่นหนาแบบไม่มีหลุด เน้นบริเวณที่เหยียบเยอะ โฟกัสตรงนี้ให้ดี เพราะเป็นจุดที่หลุดง่ายที่สุด!

> "ตอกให้แน่น…แล้วหญ้าจะอยู่กับเราไปนาน!"

จำไว้! ขอบหญ้าถ้ายึดไม่แน่น เดี๋ยวมันก็จะค่อย ๆ หลุด และปัญหาตามมาจะยิ่งเยอะกว่าเดิม ปวดหัวแน่นอน! เพราะฉะนั้น ใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนนี้จะดีกว่า ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไขทีหลัง

เคล็ดลับเพิ่มเติม ถ้าอยากให้สนามหญ้าเทียมดูเนียนสวยเหมือนมือโปร เวลาตอกตะปูให้เช็คเส้นหญ้าด้วยว่าทิศทางเรียบร้อยดีหรือยัง ถ้าตะปูแน่น เส้นหญ้าเป๊ะ รับรองว่าหญ้าของคุณจะดูดีเหมือนสนามหญ้าในฝันแน่นอน!

เพราะฉะนั้น...ถ้าไม่อยากให้หญ้าหลุด ต้องตอกตะปูให้แน่นนะครับ แล้วสนามหญ้าเทียมของคุณจะสวยเป๊ะ ใช้งานได้ยาว ๆ แบบไม่มีพังแน่นอน!

8. ไม้เกลี่ย, สามเหลี่ยม, เกียง (Trowel) – ปรับพื้นให้เนียนก่อนปู หญ้าจะได้สวยไม่มีสะดุด!

ก่อนจะปูหญ้าเทียมให้สวยเนียนแบบมือโปร อีกหนึ่งขั้นตอนที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "การปรับพื้นให้เรียบ!" เพราะถ้าพื้นไม่เรียบ ต่อให้หญ้าจะหนานุ่มขนาดไหน ปูกี่รอบก็ไม่มีทางสวยเป๊ะ! สุดท้ายหญ้าจะกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ เดินแล้วรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนภูเขาเล็ก ๆ หน้าบ้าน แบบนั้นมันไม่คูลเลยใช่ไหมครับ?

และอุปกรณ์เด็ดที่ต้องมีในมือก็คือ "ไม้เกลี่ย, สามเหลี่ยม หรือเกียง (Trowel)" ตัวช่วยปรับพื้นให้นิ่ง เรียบเนียน ไม่มีหลุม ไม่มีเนิน! เพราะงานปูหญ้า...ต้องเนี้ยบตั้งแต่ฐาน ไม่งั้นมีปัญหาแน่!

แล้วทำไมต้องใส่ใจการเกลี่ยพื้น? เพราะพื้นเรียบ = หญ้าปูแล้วสวยเนียน ลดโอกาสที่พื้นจะยุบหรือขรุขระในอนาคต ช่วยให้การเดินเหยียบบนหญ้ารู้สึกนุ่มสบาย ไม่มีสะดุด ถ้าปูไม่เรียบตั้งแต่แรก แก้ทีหลัง...เหนื่อยกว่าสิบเท่า!

วิธีใช้ไม้เกลี่ยให้เนียนกริบเหมือนช่างมือโปร!

เริ่มต้นเกลี่ยหินหรือทรายให้ทั่วพื้นที่ ใช้ไม้เกลี่ยหรือเกียงปาดปรับพื้นให้เรียบที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหินหรือทราย ต้องทำให้สม่ำเสมอ อย่าให้มีเนินหรือหลุม เพราะหญ้าจะตามรูปพื้นเป๊ะ ๆ ถ้าปล่อยไว้ พอปูหญ้าแล้วจะเป็นคลื่น ๆ ดูไม่สวยเลย! สังเกตความเรียบด้วยสายตาและการสัมผัส หลังจากเกลี่ยแล้ว ลองใช้มือสัมผัสดูว่าพื้นเรียบจริงไหม หรือจะลองเดินเบา ๆ สำรวจรอบ ๆ ถ้ารู้สึกว่ามีจุดไหนนูน ๆ หรือต่ำไป ก็เกลี่ยซ้ำอีกรอบ!

เกลี่ยซ้ำจนกว่าจะมั่นใจ บางครั้งอาจรู้สึกว่า “โอเคแล้วล่ะ” แต่พอปูหญ้าเทียมจริง ๆ ดันเจอปัญหา! ดังนั้นถ้ายังไม่มั่นใจ...อย่าหยุด! ลองเกลี่ยซ้ำจนแน่ใจว่าพื้นเรียบจริง ๆ เพราะถ้าแก้ตอนปูหญ้าไปแล้ว มันจะยุ่งยากและเสียเวลาแบบสุด ๆ

ใช้เครื่องตบช่วย (ถ้ามี) หลังจากเกลี่ยเรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากให้พื้นแน่นสุด ๆ ใช้เครื่องตบหรือตบด้วยมืออีกครั้ง จะช่วยให้พื้นแน่นหนามากขึ้น ป้องกันปัญหายุบตัวในอนาคตได้ดี!

ทริคพิเศษสำหรับการเกลี่ยแบบมือโปร อย่าลืมเช็คความลาดเอียง (สโลป) พื้นเรียบอย่างเดียวไม่พอ ต้องดูด้วยว่ามีความลาดเอียงพอให้ระบายน้ำหรือเปล่า เพราะถ้าน้ำขังบนพื้นดิน จะทำให้หญ้าเสียหายง่าย ยิ่งถ้าพื้นลาดไปในทิศทางที่น้ำไหลออกได้ดี หญ้าก็จะอยู่ได้ยาวขึ้น ระวังอย่าให้ทรายหรือหินบางจุดหนาเกินไป เพราะถ้าบางจุดหนา พื้นจะสูงกว่าจุดอื่น พอปูหญ้าแล้วจะดูเป็นคลื่น ๆ แบบไม่เนียนแน่นอน!

ทำไมถึงต้องใช้ "ไม้เกลี่ย" กับ "เกียง"?

  1. ไม้เกลี่ย – ใช้เกลี่ยพื้นที่กว้าง ๆ ให้เรียบสม่ำเสมอ ช่วยลดเวลาการทำงานได้เยอะ
  2. เกียง (Trowel) – เหมาะสำหรับพื้นที่เล็ก ๆ หรือซอกมุมที่ไม้เกลี่ยเข้าไม่ถึง เน้นงานละเอียด ให้ขอบมุมเรียบเนียน
  3. สามเหลี่ยม – ตัวช่วยสำหรับพื้นที่ที่มีหลุมเล็ก ๆ หรือร่องตื้น ๆ ที่ต้องการความแม่นยำสูง

สรุปง่าย ๆ ปูหญ้าให้สวย...เริ่มต้นต้องเกลี่ยพื้นให้เรียบก่อน! ถ้าปล่อยให้พื้นไม่เรียบ เดี๋ยวหญ้าก็มีคลื่นให้หัวใจสั่นแน่นอน!เกลี่ยให้มั่นใจ ยังไม่เรียบก็เกลี่ยซ้ำ เพราะงานเนียนคือความสุขใจของช่าง! เช็คสโลปด้วย น้ำขังเมื่อไหร่ หญ้าพังชัวร์!"พื้นเรียบ หญ้าเนียน ชีวิตก็สบาย!" เพราะถ้าพื้นแน่น หญ้าแนบ เดินยังไงก็ไม่สะดุด!

เคล็ดลับเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้าม ถ้ารู้ตัวว่าเป็นสายขี้เกียจ (แบบผมบางครั้ง ฮ่า ๆ) แนะนำว่าให้เกลี่ยตั้งแต่แรกให้ดีที่สุด อย่าคิดว่า “เอาน่า เดี๋ยวหญ้าก็ปิดหมดแล้ว!” เพราะสุดท้ายแล้ว...ปัญหาจะย้อนกลับมาให้แก้แน่นอน!

ดังนั้น...ถ้าไม่อยากปวดหัวแก้ไขงานซ้ำสอง จงถือไม้เกลี่ยแล้ว "เกลี่ยมันเข้าไป!" เพราะแค่พื้นเรียบตั้งแต่แรก หญ้าเทียมของคุณก็จะออกมาสวย เนียน และใช้งานได้ยาวนานแน่นอน!

9. ไม้กวาดแข็ง – ปัดหญ้าให้ตั้งตรง นุ่มฟู ดูเป็นธรรมชาติ

หลังจากปูหญ้าเทียมเสร็จแล้ว มองไปก็รู้สึกเหมือนงานจะจบ...แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าหญ้าบางจุดดูแบน ๆ ล้ม ๆ เหมือนนอนตากแดดมาทั้งวัน ฮ่า ๆ แบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้นะ เพราะหญ้าถ้าตั้งตรง สวยฟู จะช่วยให้พื้นที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

และพระเอกของงานนี้ก็คือ "ไม้กวาดแข็ง" นี่แหละ! อุปกรณ์ที่ต้องมีติดมือไว้เสมอ เพราะมันจะช่วยทำให้หญ้าเทียมที่นอนล้มแบน กลับมาตั้งตรง นุ่มฟู เหมือนเพิ่งคลอดออกมาจากโรงงาน!

ทำไมต้องใช้ไม้กวาดแข็ง?

  1. ช่วยให้เส้นหญ้าตั้งตรง ไม่แบน ไม่ล้ม
  2. ทำให้หญ้าดูฟู สวย นุ่ม น่าเดินเล่น
  3. เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับพื้นที่ ไม่ดูปลอมจนเกินไป
  4. แถมช่วยทำความสะอาดเศษฝุ่นเศษดินเล็ก ๆ ไปในตัวด้วยนะ!

ปัดยังไงให้หญ้าตั้งตรง นุ่มฟู เหมือนมืออาชีพ?

ปัด "สวน" ทิศทางของเส้นหญ้า จำไว้! หญ้าเทียมจะตั้งตรงและนุ่มฟูได้ ต้องปัดสวนกับทิศทางของเส้นหญ้าเท่านั้น ถ้าปัดตามทิศทาง เส้นหญ้าจะยิ่งนอนราบติดพื้นเหมือนโดนเหยียบมา! (ฮ่า ๆ)

ปัดสวนอย่างนุ่มนวล อย่ากลัวเส้นหญ้าจะหลุด เพราะหญ้าเทียมแข็งแรงพอสมควร แต่ก็อย่าปัดแรงเกินไป เดี๋ยวเส้นหญ้าจะขาดก่อนที่คุณจะได้อวดผลงาน! เน้นปัดในทิศทางที่เห็นชัด ลองยืนมองจากมุมต่าง ๆ ถ้าเจอมุมที่หญ้าดูแบนเกินไป ก็เน้นปัดตรงนั้นหน่อย ให้เส้นหญ้าลุกขึ้นมาสู้ชีวิต ฮ่า ๆปัดจนกว่าจะนุ่มฟูสมใจ! อย่าปัดแค่ผ่าน ๆ เดี๋ยวหญ้าจะตั้ง ๆ ล้ม ๆ ดูไม่เนียน ให้ปัดวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าทุกเส้นจะตั้งฟู หลังปัดเสร็จ ลองเดินดูความเนียน เดินวนดูรอบ ๆ มองมุมไหนก็ต้องฟูไม่มีล้ม ถ้ายังเห็นเส้นหญ้านอนหมอบอยู่ก็ปัดซ้ำไปเลย เพราะงานดีต้องละเอียด!

ทริคเพิ่มเติมสำหรับการปัดหญ้าให้สวย

ถ้าหญ้าตั้งยาก ลองพรมน้ำเบา ๆ ก่อนปัด จะช่วยให้เส้นหญ้าคืนรูปได้ง่ายขึ้น เลือกใช้ ไม้กวาดแข็งที่ขนแน่น ๆ และมีความแข็งแรงกำลังดี ไม่แข็งจนหญ้าขาด และไม่อ่อนจนปัดไม่ขึ้นอย่าลืมปัดสม่ำเสมอ ถ้าหญ้าผ่านแดด ผ่านฝนมาเยอะ เส้นหญ้าอาจจะล้มลงบ้าง การปัดเดือนละครั้งช่วยให้หญ้าดูใหม่เสมอ

ทำไมต้องใส่ใจขั้นตอนนี้?

  1. เพิ่มความสวยงาม หญ้าที่ตั้งตรงจะดูสวย เป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา
  2. ลดปัญหาหญ้าเสื่อมสภาพ เส้นหญ้าที่โดนนอนทับนาน ๆ จะเสียรูป การปัดจะช่วยคืนรูปให้หญ้าดูใหม่อยู่เสมอ
  3. ยืดอายุการใช้งาน หญ้าตั้งตรง ดูแลง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
  4. ถ่ายรูปสวยกว่า  เพราะหญ้าที่ฟูและตั้งตรงจะดูเนียน เป๊ะ เหมือนมืออาชีพ!

สรุปง่าย ๆ ถ้าหญ้าปูเสร็จแล้วแต่ยังดูแบน ๆ ล้ม ๆ ไม่สวย ก็เหมือนเราตื่นนอนแล้วไม่หวีผมอะ! (ฮ่า ๆ) ไม้กวาดแข็งช่วยได้ แค่ปัดสวนทิศทางหญ้า เบา ๆ แต่เน้นให้เส้นหญ้าตั้งขึ้นฟู ๆ เดินผ่านทีไรก็ต้องสะดุดตาแบบ "เฮ้ย! หญ้าสวยเหมือนของจริงเลย!"หญ้าฟูแล้วก็เหมือนได้แต่งหน้าตั้งใจไปงาน มันช่วยเสริมบุคลิกให้บ้านดูดีแบบไม่ต้องพูดเยอะ!

"หญ้าฟู = งานดี! หญ้าล้ม = งานหลวม!"

เพราะฉะนั้น อย่าลืมหยิบไม้กวาดแข็งมาปัดคืนชีพให้หญ้าของคุณด้วยนะครับ! ขั้นตอนสุดท้ายนี้แหละ ที่จะเปลี่ยนหญ้าเทียมธรรมดาให้ดูแพงขึ้นมาอีกระดับ! ปัดให้เนียน ปัดให้ฟู แล้วคุณจะได้ผลงานที่เหมือนกับช่างมืออาชีพมาทำให้เลยล่ะครับ!

10. ถุงมือ – เพื่อความปลอดภัยของมือ ชีวิตปลอดภัย งานก็เป๊ะ!

จะปูหญ้าเทียมให้สวยยังไงก็ต้องเริ่มจาก "มือ" ที่พร้อมจะลุย! แต่เดี๋ยว...ก่อนจะหยิบคัตเตอร์ กาว หรือจับผ้าสมิงเทปมาใช้งาน สิ่งแรกที่ควรมีติดตัวไว้คือ "ถุงมือ" เพราะงานปูหญ้าเทียมไม่ได้ง่ายเหมือนวางพรมหน้าบ้าน! ต้องมีทั้งการตัด การตอก การปาดกาว และอีกสารพัดอย่างที่อาจทำให้มือลอก เลือดซิบ หรือแสบจนร้องโอ๊ย! ได้ง่าย ๆ

ทำไมต้องใส่ถุงมือ? มาดูเหตุผลกัน!

  1. ป้องกันการบาดเจ็บ  คัตเตอร์ที่คมกริบ กาวที่เหนียวหนึบ หรือแม้แต่การตอกตะปู ถ้าพลาดขึ้นมา มือคุณอาจได้รางวัลเป็นแผลลึกแบบไม่ตั้งใจ! ถุงมือจะช่วยเซฟมือให้นุ่มนิ่ม ไม่ต้องแอบร้องไห้ในใจทีหลัง
  2. ป้องกันสารเคมีจากกาว  กาวบางชนิดถ้าโดนผิวหนังนาน ๆ อาจระคายเคืองหรือเกิดผื่นแพ้ได้ การใส่ถุงมือช่วยให้ทำงานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องล้างมือบ่อย ๆ จนแสบ
  3. ช่วยให้จับเครื่องมือถนัดมือ  มือเปล่าเหงื่อออกแล้วลื่น พอหยิบคัตเตอร์หรือจับค้อนอาจหลุดมือได้ ถุงมือที่มีพื้นผิวกันลื่นจะช่วยให้จับเครื่องมือมั่นใจ ไม่ต้องกลัวพลาด
  4. ลดความสกปรก งานปูหญ้าคือต้องเจอกับฝุ่น ดิน กรวด หรือเศษวัสดุต่าง ๆ ถุงมือช่วยป้องกันไม่ให้มือเลอะเทอะ เหมาะกับสายเนี๊ยบที่อยากทำงานแบบสะอาด ๆ

เพิ่มความมั่นใจ ใส่ถุงมือแล้วดูโปรขึ้นเยอะนะ! เดินหน้างานใครก็ต้องทัก "โอ้โห! มืออาชีพมาเอง" ฮ่า ๆ

เลือกถุงมือแบบไหนถึงจะเหมาะกับงานปูหญ้าเทียม?

  1. ถุงมือผ้าเคลือบยาง ยึดเกาะดี จับเครื่องมือมั่นใจ แถมป้องกันกาวหรือสารเคมีได้ดีอีกด้วย
  2. ถุงมือหนัง ถ้าเน้นงานหนัก เช่น ตอกตะปู หรือยกของหนัก ช่วยลดแรงกระแทกและป้องกันมือจากแผลถลอก
  3. ถุงมือผ้า  เหมาะสำหรับงานที่ไม่เสี่ยงมาก เช่น ปัดหญ้า หรือเก็บเศษวัสดุ

ทริคเล็ก ๆ ในการใช้ถุงมือให้คุ้ม!

เลือกไซซ์ให้พอดี  ถุงมือที่หลวมไปจะหลุดง่าย ถุงมือที่แน่นเกินไปจะทำให้จับของลำบาก เลือกไซซ์ที่พอดีมือ เพื่อความคล่องตัวสุด ๆ

อย่าใส่ถุงมือเปียก ถ้าถุงมือเปียกเหงื่อหรือเปียกน้ำ จะทำให้จับของลื่น และอาจทำให้มืออับชื้นจนเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้! (อันนี้เข็ดมาก บอกเลย ฮ่า ๆ)หลังใช้งาน ล้างและตากให้แห้ง – ถ้าไม่อยากให้ถุงมือมีกลิ่นตุ ๆ ติดมือ ล้างถุงมือให้สะอาดแล้วตากให้แห้งทุกครั้ง สำรองไว้อีกคู่ ถ้าถุงมือคู่แรกเปื้อนจนใช้ต่อไม่ได้ หรือขาดระหว่างงาน จะได้ไม่เสียเวลาหาถุงมือใหม่

แล้วทำไมถุงมือถึงช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น?

เพราะเมื่อคุณมั่นใจว่า "มือปลอดภัย" จะหยิบ จะจับ จะตัด จะตอกอะไรก็ไม่ต้องคอยระวังตัวจนเกินไป ทำงานได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องหยุดพักบ่อย ๆ แถมถุงมือที่จับถนัดมือยังช่วยให้ทำงานไวขึ้นจริง ๆ ลองมาแล้ว! (ไม่เชื่อก็ลองเลยครับ ฮ่า ๆ)

  • ถ้าไม่ใส่ถุงมือ แล้วจะเป็นยังไง?
  • มือเปื้อนกาวเหนียวหนึบ ต้องมานั่งขัดล้างจนแสบมือ
  • เผลอมือไถล โดนคัตเตอร์บาด เลือดอาบ!
  • หยิบจับอะไรไม่ถนัด หญ้าขาด งานพัง
  • ต้องพักงานบ่อย เพราะมือล้า เจ็บ ปวดแสบปวดร้อน (นึกภาพแล้วก็เจ็บแทน!)

สรุปแบบง่าย ๆ อย่าคิดว่า "แค่ปูหญ้าเอง ไม่ต้องใส่ถุงมือก็ได้มั้ง" เพราะเชื่อเถอะ...เจ็บมาเยอะแล้ว!ถุงมือช่วยเซฟมือ ลดโอกาสพลาด แถมทำให้ทำงานเร็วขึ้นด้วยใส่แล้วถอดออกมามือสะอาด จับอะไรก็ไม่ต้องรีบล้างให้วุ่นวายและที่สำคัญ ใส่แล้วเท่! ดูมือโปรกว่าใคร (งานนี้ต้องอวด ฮ่า ๆ)

"มือไม่ปลอดภัย งานก็ไม่เป๊ะ!"

ใส่ถุงมือเถอะครับ เพื่อความสบายใจและปลอดภัยของคุณเอง! เพราะงานปูหญ้าจะง่ายและเร็วขึ้น ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยความปลอดภัยที่ถูกต้อง แค่มีถุงมือคู่ใจ ก็พร้อมลุยทุกสนามแล้ว!